วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

เก้า - ก้าว

หลาย ๆ คนส่วนมากมักกลัวการเปลี่ยนแปลงด้วยกันทั้งนั้น
สำหรับข้าพเจ้าแล้ว การเปลี่ยนแปลงไม่น่ากลัวเลย
เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เปลี่ยนโรงเรียน เปลี่ยนเพื่อน
เปลี่ยนห้องเรียน บ่อยกว่าคนอื่น
เลยไม่รู้สึกลำบากใจที่จะต้องปรับตัวมากนัก
คนเรากลัวอนาคตกัน เพราะว่า
เราไม่รู้ว่าอนาคตของตนเองจะเป็นอย่างไร จึงรู้สึกกลัวในความไม่รู้ในสิ่งนั้น

มนุษย์เราเลยรู้สึกกลัวที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ไม่คุ้น หรือไม่ชิน
หากการเปลี่ยนแปลงนั้น มีเพื่อนหรือครอบครัวใกล้ชิด
ให้การสนับสนุน ก็คงไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากนัก
บางคนแค่ย้ายที่ทำงาน ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า
ปาดแล้วปาดอีก (^__^)
อาจเป็นเพราะด้วยความเคยชินกับสถานที่เดิม ๆ
และความผูกพันกับเพื่อน หรือเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต


คนเรานั้นมักจะติดอยู่กับอดีตกันมาก เลยทุกข์มาก
ไม่กล้าที่จะก้าวต่อไป

วันนี้เป็นวันที่ดี เป็นวันที่เก้า เดือนเก้า ปีคริสต์ศักราช สองพันห้าร้อยเก้า
เพราะฉะนั้น หลาย ๆ คนจึงมักจะให้ความสำคัญกับฤกษ์ในยามนี้
คนเราต้องก้าวต่อไป เพื่ออนาคตที่ดีของตนเอง
พ่อมักบอกฉันกับพี่สาว เสมอ ๆ ตอนมาส่งเรียนช่วงเปิดเทอมที่กรุงเทพฯ

พูดทุกครั้งที่พ่อมาส่งฉันกับพี่สาวที่บ้านป้า
ด้วยความเป็นเด็ก อยากอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว
น้ำตาร่วงทุกครั้งที่พ่อพามาส่ง
โตขึ้น เลยทำให้ฉันค่อนข้างมีจิตใจเข้มแข็ง
ไม่หวั่นไหวอะไรง่าย ๆ เหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ
เพราะตอนเด็ก ๆ ฉันคงร้องไห้มากพอแล้วมั้ง ^_^
โตขึ้นเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร แบบใจหินก็ไม่เชิงนัก
น้ำตาของฉันไม่ค่อยร่วงให้ใครเห็นง่าย ๆ
หรือว่า ใจมันตายด้านแล้วก็ไม่รู้ อิอิ :P

ก็เหมือนกับความตาย
คนเรามักจะกลัวความตายกัน
หากเรามีชีวิตที่มีความสุข
เลยไม่อยากจากความสุขที่เราเคยชินอันนั้น
(ติดสุขนั่นเอง)
แต่สำหรับคนที่มีความทุกข์มาก
ก็มักกล้าที่จะทำร้ายตัวเองจนตายได้
เพราะอยากมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่




เหตุการณ์ 2 อย่างนี้ แสดงให้เห็นว่า
คนเรามักติดสุข อยากให้ชีวิตของตนเองมีความสุข
ไม่อยากเจอทุกข์ หรือเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จึงเลือกที่จะทำให้ชีวิตตนเองปลอดภัยไว้ก่อน

เพราะฉะนั้นหากใครเจอความทุกข์
ให้คิดว่า เป็นบทเรียน เป็นยารักษาใจเราอย่างดี
ต่อไปภายหน้า หากเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรง
ไม่คาดคิดกว่านี้ ก็สามารถทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้
ไม่เป็นคนสติแตก หรือวิกลจริตเสียก่อน เมื่อเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ในชีวิต

อย่างข้าพเจ้ามักจะเจ็บป่วยบ่อย ก็ทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ถือว่า ในทุกข์มีสุข ในสุขมีทุกข์เจืออยู่ด้วยเสมอ
หากเรารู้จักมองชีวิต เราก็จะเข้าใจชีวิตมากขึ้น
คนที่มีความสุขมาก ๆ เวลามีทุกข์ ก็มักจะทุกข์สุด ๆ
หากไม่ตระเตรียมใจให้ดี ด้วยความหลงระเริง
คิดว่า ทุกอย่างจะอยู่กับเราตลอดไป ....

เขาถึงบอกว่า
ชีวิตขม ๆ หากมองอีกมุมหนึ่งนั้น
เป็นบทเรียนให้ใจเรา กล้าที่จะก้าวต่อไป

ทำให้เราแกร่งขึ้น ไม่อ่อนแอ

โดย คิดแล้วเขียนV:)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น