วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

โยนหินถามทาง ระวังหินตกใส่หัวตนเอง

สมัยนี้ คนเราหาความจริงใจได้ยาก
บางทีอยากรู้เรื่องของคนอื่น
(ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมาก ๆ ๆ)
อาจไม่ใช้วิธีถามตรง ๆ แต่อยากรู้ว่า
ตอนนี้เขากำลังทำอะไร?

เช่น เคยเห็นเพื่อนคนนี้ กระดี๋กระด๋าอยากมีบ้าน
แต่ก็เห็นเงียบ ๆ ไป ก็เลยใช้ตนเอง หรือเพื่อนตนเอง
แสดงตัวว่าจะกู้เงินซื้อคอนโด ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่
แล้วก็พูดอ้อม ๆ กับคนอื่น
แต่พอถูกย้อนถามให้ ก็ปฏิเสธว่า
จะซื้อไปทำไม? ที่อยู่ปัจจุบันดีกว่า
ก็เลยไม่รู้ว่า ใครโกหก ใครหลอกใครกันแน่

สมัยนี้ คนใช้วิธีเหล่านี้เยอะ
ยิ่งถ้าเป็นคนที่เก็บความลับได้เก่ง
ยิ่งจะถูกหลอกถามแบบนี้มาก
เขาเรียกวิธีนี้ว่า โยนหินถามทาง
บางคนกุลีกุจอช่วยเหลือดิบดี
เพราะอยากรู้ข้อมูลของคนอื่นเขา
แบบประสงค์ดีเล็กน้อย

นี่แหล่ะ อะไรที่เป็นความลับ ก็สามารถหลุดได้ออกมา
คนที่รู้เรื่องราวคนอื่น มีท่าทีดีใจยังไงบอกไม่ถูก :P

เหมือนตนเองเป็นผู้ชนะ
แล้วเอาไปพูดต่อ ๆ ยิ่งคนที่คุยเก่ง ๆ จะหลุดได้ง่าย
เพราะไม่ทันระวังตัว ...เพราะฉะนั้น...ทำอะไรหัดปิดปาก
ซะบ้างก็ดี จะได้ไม่เดือดร้อน ทั้งตนเองและคนรอบข้าง

(ดั่งโบราณท่านกล่าวไว้ อะไรก็ตามที่เรายังไม่เปิดปาก
มันก็ยังเป็นความลับต่อไป)

มันก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคนที่รู้ข้อมูลแล้วเอาไปพูดต่อ
ในทางที่ดี (กลัวแต่ว่าเอาไปเล่นงานคนอื่นน่ะซิ)
สมัยนี้ เขาถึงบอกงัยว่า ยิ่งมีสาย (มีพวก)เป็นหู เป็นตา
รู้จักคนไปทั่ว ก็มักจะได้ข่าวดี ๆ เรื่องของชาวบ้านเยอะ
(แต่เรื่องของตัวเองมักจะไม่รู้แหะ :))

พวกที่ชอบหลอกถามข้อมูลคนอื่น
สักวันระวังตัวเองจะตกม้าตาย
เพราะลืมไปว่า ตัวเองพูด(โกหก)ไว้อย่างไร?

เปรียบเสมือนว่า โยนหินขึ้นไปเพื่อถามทาง
แต่สุดท้าย หินก็ดันมาตกใส่ศีรษะตนเอง
ด้วยประการ ฉะนี้แล ...แต แลม แต แลม....


คิดแล้วเขียน :)V

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น