วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หัวเราะเป็นยาวิเศษ

เมื่อตอนเด็ก ๆ ข้าพเจ้ามักจะป่วยบ่อย
เวลาป่วยทีไร มักจะนึกถึงแม่เสมอ ...
ยิ่งห่างพ่อห่างแม่มาตั้งแต่เด็ก
ก็เลยทำให้เข้าใจอาการของคนห่างบ้านได้ดี

คนป่วยต้องการกำลังใจ ต้องการเพื่อน
ในชีวิตฉันมักจะเจอคนป่วยบ่อย ๆ
เมื่อก่อนก็ปู่ ย่า ป้า อา
แวะเวียนกันเข้า รพ.
จนชินกับการไปเฝ้าไข้คนป่วย
วันนี้พ่อเพื่อนป่วย พอดี รพ.อยู่ใกล้บ้าน
สามารถแวะเวียนไปเยี่ยมได้ง่ายกว่าคนอื่น
เลยตัดสินใจไปเยี่ยมตอนเย็นดีกว่า
เหมือนกับช่วงที่ข้าพเจ้าเคยไปเฝ้าป้าที่ป่วยบ่อย ๆ
ก็จะแวะไปเยี่ยมตอนหลังเลิกงานเป็นประจำ

เห็นเพื่อนเหลือพ่ออยู่คนเดียว ก็อดสงสารเขาไม่ได้
พี่น้องก็ไม่มีแล้ว จะผลัดกันดูแลก็ไม่ได้
ต้องหนักอยู่คนเดียว แถมบ้านก็อยู่ต่างจังหวัดอีก
เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานต่างก็ยินดีช่วยเหลือกัน

เราก็คงช่วยในฐานะเป็นเพื่อนไปให้กำลังใจคนป่วยบ่อย ๆ
เพราะคนป่วยต้องการกำลังใจมากที่สุด
ยิ่งถ้ามีลูกหลานแวะเวียนกันมาเยี่ยม แกก็คงดีใจ
ไม่รู้สึกทอดทิ้ง ก็เหมือนกับตอนเด็ก ๆ
ที่เราต้องห่างบ้านไปอยู่ที่อื่น
ก็คงรู้สึกโหวง ๆ บ้าง ถ้ามีคนให้กำลังใจ
คอยพูดคุย แหย่ให้หัวเราะ ก็สามารถลืมอาการป่วยได้

วันนี้เห็นพ่อเพื่อน เขาคุยแหย่กับลูกเขา
แล้วรู้สึกว่า แกสดชื่นขึ้น คนเฝ้าก็ไม่หนักใจ
คนป่วยก็จะได้มีกำลังใจ ทั้ง ๆ ที่อาการคนป่วย
ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ...ข้าพเจ้าเห็นหูพ่อเพื่อนใหญ่และยาว
คล้ายยายที่เพิ่งเสียไปเมื่อตอนอายุ 90 กว่าแน่ะ
เลยชม พ่อแกว่า หูยาว เหมือนคุณยาย
อยู่ถึงอายุ 90 ปีแน่ะ ...(พ่อเพื่อนอายุ 67 ปี)
พ่อแกจะได้มีกำลังต่อสู้อาการของโรคป่วยได้
กำลังให้คนป่วยนี่ก็สำคัญนะ
และเราก็พูดตามความรู้สึกอยากให้กำลังใจจริง ๆ
เพื่อนยังบอกเลยว่า พ่อดีขึ้นกว่าตอนมาเข้าใหม่ ๆ

เพื่อนหลายคน ก็ยินดีให้เพื่อนไปพักบ้านเขาได้
ระหว่างที่พ่อเขาอยู่ รพ. จะได้สะดวกในการเดินทาง
มาทำงานและดูแลพ่อ น้ำใจคนไทยยังไม่เหือดหายจากสังคมไทย

นี่คือ เสน่ห์ของนิสัยคนไทย ก็ตรงนี้นี่แหล่ะ

คิดแล้วเขียน :))V

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น