วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แม่ชีทศพร : ยกตัวอย่างธรรมะ

บทความเรื่อง :ความชั่วส่งให้ผลเป็นความเศร้า



นรชนผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ จากโลกนี้ไปแล้ว ย่อมเศร้าโศกใน

โลกหน้า เขาย่อมเศร้าโศกเสียใจ ในโลกทั้งสอง ย่อมเดือดร้อนใจ เพราะพิจารณา

เห็นความเศร้าหมองแห่งการกระทำของตน

ธรรมภาษิตนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสปรารถนายจุนทะ คนฆ่าหมู ดังมีเรื่องเล่า

ย่อๆดังต่อไปนี้

นายจุนทะ คนฆ่าหมูคนนี้ มีนิวาสสถานอยู่ที่เมืองสาวัตถี ในเวลาที่เกิดข้าวยาก

หมากแพง เขาจะเอาข้าวเปลือกบรรทุกเกวียน เดินทางไปตามหมู่บ้านในชนบท

ได้เอาข้าวเปลือกแลกลูกหมู ตัวละถังสองถัง จนหมดข้าวเปลือก จึงนำลูกหมูมาเลี้ยง

ไว้ในคอกหลังเรือน ปรนเปรอมันด้วยอาหารและผัก จนลูกหมูเหล่านั้นโตอ้วนท้วน

ถึงขนาดแล้ว จึงนำมันมาฆ่า เอาเนื้อมาทำอาหารบริโภคภายในครอบครัวส่วนหนึ่ง

ที่เหลือได้นำไปขายแลกเงิน

นายจุนทะประกอบอาชีพเลี้ยงหมูและฆ่ามานานถึง 55 ปี ในระยะเวลาช่วงนี้

นายจุนทะไม่เคยให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรมอะไรเลย แม้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และภิกษุสงฆ์จะประทับอยู่ที่วิหารเชตวัน ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของเขา ก็ไม่ทำให้

นานจุนทะเกิดกุศลจิตขึ้นมาเลย

แต่ทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ย่อมหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น
เป็นแต่กรรมนั้น

จะให้ผลช้าหรือเร็วก็เท่านั้น และนายจุนทะก็ตกอยู่ในอำนาจของมัน เวลาผ่านไป

วัยของเขาก็ค่อยๆ แก่ลง สุดท้ายก็ล้มเจ็บ และอาการได้ทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ก่อน

ที่เขาจะตาย 7 วัน ความร้อนของเปลวไฟจากมหานรกขุมอเวจี ได้มาปรากฏแก่เขา

ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ นายจุนทะเกิดความเร่าร้อนในจิตเป็นกำลัง ได้ส่งเสียงร้องเหมือน

หมูที่ถูกเชือด เที่ยวคลานสี่เท้าไปทั่วเรือน แม้คนในเรือนจะพยายามช่วยกันอุดปาก

ไว้ก็ไม่อยู่ เป็นความจริงทีเดียวว่า ผลของกรรมนั้นไม่มีใครจะห้ามได้ เสียงร้องของ

นายจุนทะ ทำเอาผู้คนที่อาศัยอยู่โดยรอบชั่ว 7 หลังคาเรืองไม่เป็นอันหลับอันนอนกัน

เพื่อจับนายจุนทะไม่อยู่ พวกญาติจึงจับเอาขังไว้ในเรือน แล้วจัดเวรยามคอยระวังอยู่

ด้านนอก

นายจุนทะเที่ยวคลานสี่เท้า ส่งเสียงร้องเหมือนหมู อยู่อย่างนี้ถึง 7 วัน พอรุ่งขึ้น

ในวันที่ 8 เขาก็สิ้นใจ เพราะอกุศลแห่งการทำปาณาติบาตไว้มาก จึงส่งให้เขาไปเกิด

ในมหานรกขุมอเวจี เสวยกรรมชั่วที่นั่น(ความร้อนของเปลวไปนรก สามารถเผาหิน

ก้อนใหญ่ๆ ให้ละลายได้ในชั่วพริบตาแต่สัตว์นรกนั้นจะเป็นเหมือนคลอดออกมาจาก

ครรภ์ของมารดา)

ก่อนที่นายจุนทะจะสิ้นใจ มีพระภิกษุกลุ่มหนึ่ง เดินผ่านบ้านของเขาไปยังเชตวัน

ได้ยินเสียงนายจุนทะร้องก็เข้าใจว่าเป็นหมูที่ถูกฆ่า เมื่อเข้าไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แล้วจึงกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ที่บ้านนายจุนทะเขาฆ่าหมูกันมา 7 วันแล้ว เห็นทีจะมีงาน

มงคลอะไรบางอย่าง พวกเขาฆ่าหมูกันอย่างปราศจากความเมตตากรุณาพวกข้าพระองค์

ยังไม่เคยพบเห็นคนที่กักขฬะหยาบช้าอย่างนี้เลย พระเจ้าข้า

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงตรัสแก่ภิกษุเหล่านั้นให้ทราบว่า ภิกษุทั้งหลายที่บ้านนาย

จุนทะ ไม่มีการฆ่าหมูตามที่พวกเธอเข้าใจ แต่ว่าผลกรรมได้มาปรากฏแก่นายจุนทะคือ

ไฟนรกได้มาปรากฏแก่เขา ทั้งในขณะมีชีวิตอยู่ เขาเที่ยวเดินสี่เท้า ส่งเสียงร้องเหมือน

หมูอยู่ภายในบ้านเจ็ดวัน นายจุนทะเพิ่งเสียชีวิตไปในวันนี้เอง และได้ไปเกิดในที่ๆมี

ความเศร้าโศกทุกข์ทรมานอีก

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรับรองคำของภิกษุทั้งหลายว่า อย่างนั้นภิกษุ

ทั้งหลาย บุคคลผู้ประมาทแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือพระก็ตามย่อมจะต้องประสบ

ความเศร้าโศกในโลกทั้งสองเหมือนกันจากนั้นพระพุทธองค์จึงทรงตรัสประพันธ์

ภาษิตต่อไปอีกว่า

นรชนผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ จากโลกนี้ไปแล้ว ย่อมเศร้าโศก

เสียใจในโลกทั้งสอง ย่อมเดือดร้อนใจ เพราะพิจารณาเห็นความเศร้าหมองแห่งการ

กระทำของตน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





บทความเรื่อง :
เห็นเขารวย อย่าหลงคิดว่าเขารอด

มีคนถามแม่ชีว่า เห็นคนที่เขาขายเหล้า ขายเบียร์ ยาดอง ค้าขายชีวิตสัตว์ ทำไมเขา

ร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองจัง เราไม่ได้อยู่กับเขาตลอด เราจะรู้ได้ยังไง เงินมากไม่ใช่ว่ามีความ

สุขนะ เขาก็มีกรรมกับเรื่องนี้ คนเราประกอบอาชีพอะไรก็แล้ว แต่ก็เกิดมาจากกรรมทั้งนั้น

ขายหมูก็ขายชีวิตเขา ขายไก่ก็ขายชีวิตเขา คือแม่ชีเห็นคนที่เป็นอาจารย์เคยทำมาหากิน

เกี่ยวกับฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาก่อน แล้วอยู่ ๆ มาเปิดโรงเรียนสอนคนหูหนวก แล้วก็เปิดโรงเรียน

สอนพวกดาวน์ซินโดรม แล้วก็คนที่ค้าขายแบบนี้ ค้าขายแบบที่โยมว่าค้าขายชีวิต ค้าขายเป็ด

ไก่ก็รวยขึ้นมา ทุกคนแยกออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ทำไมไม่ทำสิ่งที่แบบสื่อสารกันได้ชัดเจน

แหล่งที่มาของเงินทำให้ไปตั้งโรงเรียน พอตั้งโรงเรียนแล้วคนที่เข้ามาในโรงเรียนก็ไม่ปกติ

เลยสักคน ลูกคนที่ได้มานี่ก็ไม่ปกติ หูตึง พูดไม่ได้ แล้วเราจะมีความสุขหรือ สอนเขาก็ไม่รู้

เรื่อง แหล่งที่มาของเงินมันมายังไงมันก็จะต้องไปอย่างนั้น

ธรรมะที่จะเอาตัวให้รอด คือเราต้องมีสติ
มันต้องมีสติรู้ให้เท่าทันกับสิ่งที่ทำลงไป ต้องมี

สติว่าสิ่งที่เราทำลงไป ที่เรามีความทุกข์ทุกวันนี้ ที่เราเอาตัวไม่รอดทุกวันนี้ เพราะบางทีเรา

โลภเกินไป เราโกง เราไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำลงไป มันจะส่งผลถึง

ชีวิต อนาคตของเรา จะทำให้เราเอาตัวไม่รอด ความจริงถ้าเรามีสติ มีความรู้สึกตัว มี

สัมปชัญญะที่จะเตือน อันนี้ของๆ เรา เราทำอาชีพอะไรจะให้เจริญรุ่งเรืองเราต้องซื่อสัตย์นะ

ไม่ใช่เราทุจริต เราต้องซื่อสัตย์ ขายก๋วยเตี๋ยวก็คงสภาพเอาไว้ว่า สูตรมันต้องอยู่แบบนี้ ไม่ใช่

พอเห็นคนเยอะก็เปลี่ยนเพื่อจะให้กำไรมากขึ้น ใครมีหน้าที่อะไรก็ควรรู้ว่าจะต้องปรับปรุง

พัฒนาตัวเองยังไงที่จะให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น แล้วก็อยู่ให้รอด แต่แม่ชีว่าเรื่องของกรรมมันไม่มี

อะไรมาล้างได้ กรรมดีก็ส่งผลมาทำให้เรามีช่องทางที่จะไปได้ตลอดไป แต่กรรมที่ไม่ดีมัน

ก็ส่งผลมาเหมือนกันว่าในขณะที่ธุรกิจกำลังก้าวหน้าเราก็ถูกบั่นทอนด้วยโรคร้าย เราไม่ได้ไป

คลุกคลีกับเขา เราไม่ใช่เขา เราก็จะมองว่า เขาดูดีนะ เขาดูร่ำรวยแต่ทำไมเขาถึงระบายความ

ทุกข์อยู่ตลอด นั่นคือเอาตัวไม่รอด “การเอาตัวรอดไม่ใช่ว่ารอดเพราะมีเงิน
การเอาตัวรอดคือ

ใช้ชีวิตยังไงให้มีความสุขกับนาทีนี้


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


บทความเรื่อง : เราจะบริหารชีวิตของเราอย่างไร

เราจะบริหารชีวิตของเราอย่างไรในเมื่อเรารู้ผิดไม่รู้ถูก พระพุทธเจ้าท่านเสียสละ

ทุกอย่างเพื่อชาวโลก ทุกชาติทุกภาษา สอนให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อจะได้รู้ทุกข์ รู้เหตุ

ทุกข์ เพื่อดับทุกข์แล้วอยูกับความเจริญอย่างประเสริฐ คือมรรคมีองค์ ๘

ในชีวิตประจำวันแต่ละวันของแม่ชี แม่ชีได้พบเรื่องราวมากมายที่น่าศึกษาว่า

มรรค ๘ ที่ท่านกล่าวว่าเป็นความประเสริฐ คือ ความสุจริต มีความเพียงเอาชนะกิเลส

ตัณหาจากความโลภ ความโกรธ ความหลง

มันเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์ทุกคนที่ต้องต่อสู้เลี้ยงชีพ เลี้ยงร่างกาย จนนาที

สุดท้ายเอง ชีวิตดูได้จากอาการของผู้ที่กำลังจะจากโลกนี้ไปว่า ไปแบบไหน สุขหรือ

ทุกข์ ถ้าไปแบบทุกข์ก็ทรมานจนสิ้นใจ ถ้าไปแบบสุขหลับสงบนิ่ง หมายถึง สู่สุคติ

แต่คนที่ยังไม่ตาย บางคนเหมือนอยู่ในนรกทั้งยังคงถูกทุบตีทุกวัน เหตุใดทำให้

คนเหล่านี้ต้องรับกรรมเช่นที่เป็นอยู่

นั้นเพราะความไม่เคารพเชื่อฟังพ่อแม่ แม้ไม่นำอาวุธใดฆ่าเขา แต่ใช้คำพูด

เชือดเฉือดให้เสียน้ำตา เวลาใช้คืนก็ต้องถูกทุบตีจากคนที่เรารักเช่นเดียวกัน

มีลูกตีพ่อ มีพ่อตีลูก ลูกก็สู้ มีแม่ตีลูกผูกขามัดแขนตี เพราะอารมณ์โกรธจนบังคับ

ไม่อยู่ สร้างความเกลียดชัง ในแม่และพ่อ

ถึงจะคิดอย่างไร ทำอย่างไร พูดอย่างไร ก็ต้องรับกรรมกันไปเป็นเผ่าพันธุ์ ของ

ตระกูลไปว่าตระกูลนี้เขาฆ่ากันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย พอมาถึงรุ่นลูกต้องรับโทษกันไป

ตามบุญตามกรรม

-----------------------------------------------------------------------------


พรสวรรค์.....วิชาจากอดีต

คุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูก ควรหมั่นสังเกตในสิ่งที่เด็กๆชอบเป็นพิเศษ โดยสังเกตดูว่า

ภายในบ้านเด็กๆ ที่เป็นลูกของเราชอบไปคลุกคลีกับสิ่งไหนเป็นพิเศษหรือไม่ แน่นอน

ว่าหากเป็นการคลุกคลีเป็นพิเศษกับสิ่งดีๆ เช่นเครื่องดนตรีบางชิ้น อุปกรณ์กีฬาบางอย่าง

ดอกไม้ต้นไม้ การวาดภาพ ปากกาดินสอ หรือแม้กระทั่งพระเครื่องพระบูชา สิ่งเหล่านี้

กำลังบอกคุณเป็นนัยๆ แล้วว่านั่นอาจเป็นสิ่งที่ลูกคุณคุ้นเคยมาแต่อดีตชาติ หากคุณ

ส่งเสริมในเรื่องนั้นย่อมเป็นผลดีแก่ตัวเขาอย่างสูงสุด รหัสกรรมแบบนี้แหละที่ปัจจุบัน

เราเรียกว่า พรสวรรค์

พรสวรรค์ ก็คือรหัสกรรมในแง่ที่ดี เป็นผลกรรมทางด้านกุศลที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

สืบเนื่องมาจากอดีตชาติ โดยมาก พรสวรรค์มักเป็นความสามารถจากอดีตชาติที่ใกล้ๆ

เช่นสองสามชาติที่ผ่านมา แต่ก็มีบ้างที่พรสวรรค์บางอย่างเป็นสิ่งที่ติดตัวและได้รับการ

พัฒนามาอย่างต่อเนื่องในทุกภพทุกชาติ เช่นคนบางคนสามารถปฏิบัติได้ง่าย เข้าใจธรรม

ได้เร็ว ในกรณีเช่นนี้คือการสั่งสมมา ทุกครั้งที่มีการเกิด เด็กเริ่มพูด เริ่มเดินก็จะพยายาม

เข้าหาสิ่งนั้นทันที และหากเป็นรหัสกรรมที่ไม่ดีก็จะมีความหวาดกลัวให้เห็น บางครั้งอาจ

โผล่ขึ้นมาทางความฝัน ซึ่งผู้เป็นพ่อเป็นแม่ควรสังเกตให้มากก็จะเป็นประโยชน์ไม่น้อย

เพราะจะทำให้คุณเข้าใจตัวของลูกและสามารถพัฒนาเขาไปในแนวทางที่ถูกหรือรีบทำการ

แก้ไขสิ่งที่ติดมาแต่อดีตได้ทันเวลา

เพราะอย่างไรก็ตาม เราสามารถหัดนิสัยใหม่ให้แก่เด็กได้และสามารถลบอุปนิสัยที่

ไม่ดีทิ้งไป ทั้งนี้จำเป็นที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ความโอบอ้อมอารีจากผู้ที่เป็น

พ่อและแม่ ทั้งอาศัยระยะเวลา หากได้ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย

เลยทีเดียว รหัสกรรมบางอย่างแก้รหัสไม่ยาก บางอย่างไม่จำเป็นที่ต้องเข้าไปรู้ แต่เมื่อ

รหัสบ่งบอกออกมาก็รีบทำการแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นการลบรหัสนั้นทิ้งไปโดยไม่จำ

เป็นต้องขุดรากเหง้ามาดู

การแก้ไขนั้นไม่ใช่เรื่องยาก คือการเริ่มปลูกฝังอุปนิสัยใหม่ โดยส่งเสริมความกล้า

ทั้งจากกำลังใจของพ่อแม่ ส่งเสริมคุณงามความดีในจิตใจเด็กตั้งแต่ยังเยาว์ เช่น การ

พาเข้าวัดสวดมนต์แต่เล็กๆ ยังมีวิธีการมากมายที่จะเป็นการเสริมพลังใจแก่เด็ก เมื่อ

พลังใจที่ดีเกิดขึ้นมาแล้ว อำนาจจากจิตที่เป็นบุญก็จะเริ่มลบล้างรหัสอกุศลกรรมเก่าที่

ติดมาเอง เหมือนน้ำใหม่ไล่น้ำเก่านั่นเอง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=


ข้อคิดที่ได้จากการฟังธรรม :
การทำความชั่วทุกชนิด ย่อมก่อให้เกิดความเศร้าหมอง
ถ้าอยากให้ชีวิตมีแต่ความสุข ต้องละเลิกในสิ่งที่ผิดศีลธรรม


ฟังธรรม อ่านธรรมะ ช่วงถือศีล :)
โดย คิดแล้วเขียน V:)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น