วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทศกาลดูไฟประดับ

อากาศช่วงนี้กำลังสบาย
ใกล้วันเฉลิมพระชนม์พระพรรษาของพระเจ้าอยู่หัว
มักจะมีแสงสีเสียง ประดับประดาตามสถานที่ต่าง ๆ
ข้าพเจ้าคนนึงล่ะ ชอบอากาศแบบนี้ ถ้าได้เดินดูไฟประดับสวย ๆ
คงเก็บภาพถ่ายได้เยอะ
จำได้ว่าปีที่แล้วไปถ่ายพระเมรุสมเด็จพระพี่นางฯ
อากาศค่อนข้างเย็นสบาย (1 ปีไวจริง ๆ)
ถ้าเดินแล้วเหงื่อไม่ออกมาก ก็น่าเดินเที่ยวอีก

ปีนี้อยากจะไปชมบรรยากาศแบบนั้นอีก เห็นเพื่อนที่ทำงานหลายคน
จะไปกัน แต่ติดตรงที่ข้าพเจ้าต้องเตรียมตัวเดินทางไปคุนหมิง
ในเช้าวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค.52 นี้
(เสียดายเหมือนกัน เพราะนาน ๆ จะมีเพื่อนไปเดินเที่ยว)

ช่วงนี้ข้าพเจ้าต้องถนอมสุขภาพก่อนไปผจญความหนาวที่จีน
เดี๋ยวจะเกิดอาการ ไข้หวัดถามหาก่อนไป
เพราะเมื่อวานตอนหัวค่ำและเช้าวันนี้จามไม่หยุด
น้ำมูกไหล ตกบ่ายร้อน ๆ หนาว ๆ ....ปวดศีรษะนิดหน่อย

ไม่ใช่ไปจีนครั้งนี้ไปรับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มาล่ะแย่เลย
ยิ่งเป็นคนขี้แพ้ เพราะภูมิคุ้มกันไวต่อสิ่งต่าง ๆ อยู่ด้วย
จริง ๆ แล้วเดินทางไปครั้งนี้ ต้องกลับค่ำวันที่ 13 ธ.ค.52
แต่เนื่องจากเดินทางท่องเที่ยวมาหลายวัน ขืนมาลุยงานต่อ
สงสัยจะไม่ได้งาน แต่จะได้อาการป่วยมากกว่า

ใครว่าไปเที่ยวเป็นการพักผ่อน เหนื่อยต่างหากซิไม่ว่า
ต้องเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังเดินทาง
อยู่บ้านเฉย ๆ น่ะ สบายกว่าเยอะ

แต่การท่องเที่ยวก็เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ตนเอง
ซึ่งสมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องไปทุกที่ก็ได้
แค่ท่อง internet อยากรู้ อยากเห็นอะไร
ก็หาได้จาก พี่ google ได้ตลอด ไม่เปลืองตังค์ด้วย
แต่เปลืองตังค์ค่า net กับค่ายารักษาโรคอ้วน ^__^

คนสมัยนี้เลยเป็นโรคอ้วนกันเยอะ (รวมข้าพเจ้าด้วย อิอิ :))
เพราะวัน ๆ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายไปไหน
อยู่ที่ทำงานก็นั่งจุ้มปุ๊กตรงโต๊ะทำงาน กับโต๊ะ com
บางคนแค่กินข้าว ยังไม่เดินไปซื้อเองเลย
แล้วแบบนี้ ถ้าป่วย หรืออ้วน ก็ไม่ต้องโทษใครแล้วล่ะ
โทษตัวเองดีกว่า ที่รักสบายเกินไป
ขี้เกียจมาก โรคก็ถามหา ... ^__^


คิดแล้วเขียน :)V

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น