วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553
แบ่งปันธรรมะ
และบทความต่อเนื่อง
---------------------------------------------
นี่แหล่ะน๊า มนุษย์เรา ...ก็เท่านี้
อย่าเศร้าไปเลย ...ใครไม่รัก ก็ช่างเขา
เรารักตัวเองให้ดี ๆ ดีกว่าม๊ะ!
เพิ่มเติม
อย่าลืมว่าสวรรค์มีตา ฟ้าเป็นใจ
หากเรามีความซื่อสัตย์และจริงใจกับใครแล้ว
ฟ้าย่อมบันดาลให้คนดีมาเป็นคู่ของเราเอง
ถ้าเราเป็นคนไม่ดี ถึงมีคู่ที่ดี ก็ไปไม่รอด
และไปไม่ตลอดรอดฝั่ง
คงต้องกลับมาถามตนเองแล้วล่ะว่า
เราจริงใจกับใครบ้างหรือเปล่า?
ถ้าเราดีแล้ว ทุกอย่างก็จะดีเอง
ไม่ต้องโทษชะตา แต่ต้องโทษตนเอง
ที่ทำให้เป็นชะตาของเรา (กรรม คือการกระทำ)
ใจคิด หรือกิเลสในตัวเราสั่งสมอง ให้ลงมือกระทำ
นั่นคือ ชะตา ที่ฟ้าไม่ได้กำหนด
แต่เราเป็นผู้กำหนด ลิขิตชีวิตเราเอง
และเป็๋นผู้กำหนด ว่าให้ใครเดินเข้ามาในชีวิตของเราด้วย
คิดแล้วเขียน :))
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553
พวกไม่มีสังคม
ไม่ได้ออกไปไหนกับเพื่อน ๆ ...การที่เรามีสังคม หรือไม่มีสังคม
มันขึ้นอยู่กับว่า มีสังคมแล้ว ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ระดับไหน?
มีสังคมแล้วมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ ได้มากเท่าไร?
อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่า เราอยากให้ตัวเรา
หรือชีวิตเราเป็นอย่างไร
เราก็เอาตัวเราเข้าไปอยู่ในที่ตรงนั้น
ถ้าอยากเป็นคนเด่น คนดัง
ก็ต้องมีเพื่อนฝูงเยอะ ๆ
ได้ล้อมหน้าล้อมหลัง
แต่ถ้าอยากเป็นพวกฤษี ชีไพร
ก็มุดหัวอยู่กับบ้าน (แบบข้าพเจ้า 555)
จบ!
ช่วงนี้ต้องดูแลตัวเองหน่อย
หน้าฝน ก็งี้ อะไรนิดอะไรหน่อย
ก็เสียเงิน ...คอมยังไม่เสร็จ
อาทิตย์นี้ คงได้ฤกษ์ ควักตังค์จากกระเป๋าแน่นอน
คิดแล้วเขียน :(
วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ปากไวไปหน่อย
แค่สะกิด ก็สามารถทำให้ข้าพเจ้าปี๊ดได้
แต่ด้วยความที่โดนข่าวไม่ดีมาหลายครั้ง และหลาย ๆ เรื่อง
พอดีวันนี้ถ่ายเอกสารอยู่ แล้วแผ่นเอกสารปลิว
มีเพื่อนผู้ชาย(ที่ชอบล้อเล่นกับคนอื่นไปทั่ว)
พี่เขาก็แซวข้าพเจ้าเล่นว่า "อ่อย ล่ะซิ"
กะให้เขาช่วยก้มเก็บกระดาษให้
ด้วยความที่ตนเองปากไว ...ก็เลยบอกไปว่า
ถ้าฉันคิดจะอ่อย คงไม่อ่อยแถวนี้หรอก (555)
ตะลึง ตึง ๆ ...ต่างเงียบไปตาม ๆ กัน
ก็รู้นะว่า พูดไม่ดี แต่ข้าพเจ้าไม่ชอบ
ให้ผู้ชายมาพูดกับผู้หญิงแบบนี้
คนอื่นอาจทำเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
แต่ไม่ใช่ข้าพเจ้าแน่นอน!
ใครจะเล่นหัวกับใคร ข้าพเจ้าไม่สน
แต่อย่าเอาข้าพเจ้าไปล้อเล่นแบบนั้น
คนเราก็มีเส้นขีดเป็นของตนเอง
ไม่ใช่มรึงนึกจะทำอะไรก็ทำ แบบไหนกะกูก็ได้
นั่นคือ คนอื่น ไม่ใช่ฉัน
คิดแล้วเขียน :)V
วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ผู้หญิงแบบไหนมีโอกาสขึ้นคาน
ทั้งนี้ด้วยเหตุผลกลใดน่ะเหรอ? อ่ะก็รู้ๆกันอยู่นี่ว่า
เดี๋ยวนี้ฝ่ายหญิงได้รับการศึกษามากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาออกไปหางานทำและมีรายได้จนพึ่งพาตัวเองได้น่ะซี
เหตุนี้สาวๆสมัยใหม่จึงมีโอกาสเลือกที่จะแต่งงานมีเหย้ามีเรือนหรือตัดสินใจว่าจะอยู่เป็นโสด
ไม่จำเป็นต้องมีแฟนมากวนตัวหรือมีลูกมากวนใจไงล่ะ
ซึ่งจริงๆผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ปิดตัวเอง ถึงขนาดตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เกิดหรอกว่า ชาตินี้จะอยู่เป็นโสดถาวรแน่นอนชัวร์ป้าด
เพราะถึงยังไงผู้หญิงก็รู้น่าว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ยังต้องการการพึ่งพาอาศัยจากใครสักคนเพื่อช่วยกันเติมเต็มให้ชีวิตของทั้งคู่นั้นสมบูรณ์เพียบพร้อมมากขึ้น
ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ หญิงมากมายจึงอยากมีคู่รักที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปจนวันตาย...
โอ้โหว่าเข้านั่น เอ้าแต่มันเป็นเรื่องจริง เพราะผู้หญิงดีๆไม่ค่อยมีใครรักง่ายหน่ายเร็วกันน่ะซี
ยกเว้นแต่ไปเจอผู้ชายโหลยโท้ย,ไม่เป็นสุภาพบุรุษ, ไม่ให้เกียรติอิสตรีแถมยังเป็นจอมเจ้าชู้และขี้จุ๊ โอ๊ย...ขืนเจอแบบนี้ แม้ไม่อยากเลิก แต่ถ้าเค้าทำให้ เจ็บช้ำระกำใจบ่อยๆ ก็คงอยากคอนเวิร์สไปตามทางใครทางมันบ้างละว่ะ
อ่ะฝ่ายหญิงก็มีหัวจิตหัวใจนะเฟ้ย ถ้าทนไม่ได้ก็คือทนไม่ได้...มันก็แค่นั้น!
แถมปัญหาของการครองคู่ที่ผู้หญิงได้อ่าน,ได้ยิน,ได้ฟังจากทางสื่อมวลชนรวมทั้งจากเพื่อนๆ
และญาติๆของพวกเธอ ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ผู้หญิงกล้าที่จะอยู่เป็นโสดกันด้วยแหละ
หลายคนยอมรับว่า เข็ดขยาดกับปัญหาของชาวบ้านจนกลัวว่าตัวเองจะเจอปัญหาเดียวกันนี้เข้าบ้าง
จึงพยายามตัดปัญหาไม่คบใครให้ลึกซึ้งจนถึงกับจะแต่งงานแต่งการด้วยก็มี
พวกนี้อาจถูกล้อว่าเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน...แต่ก็ช่างมันซี
เพราะบางทีอาจดีกว่าแต่งงานแล้วเพิ่งรู้ว่าสามีติดเหล้า,เคล้านารี,เจียดเงินไปปรนเปรออีหนู ฯลฯ ซะอีกนะ
แต่ถ้าใคร "ทำใจได้" คงไม่มีปัญหาร็อก อีกอย่างไอ้ที่กลัวๆนั่นน่ะ
บางทีคู่ของเราอาจไม่เข้าข่ายมีปัญหาครอบครัวก็ได้ เพราะการเลือกคู่ก็คล้ายกับซื้อลอตเตอรี่
อย่างที่เค้าว่าส่วนสัปดาห์นี้ไม่ได้ตั้งใจเขียนถึงปัญหาครอบครัวหรอกนะ
แต่อยากชวนคุยเรื่อง ทำไมสาวบางคน ถึงได้ขึ้นคานกันมากกว่า
ซึ่งหากผู้หญิงคนใดอยากเป็นโสดเองก็แล้วไป กระนั้นถ้าสาวคนใดไม่ได้ตั้งใจจะโสดซะหน่อย
แต่ทำยังไง้ยังไงเพศตรงข้ามก็ไม่สนใจที่จะจีบหล่อนเป็นแฟนซะทีโอ้ อย่างงี้แสดงว่า
สาวรายนั้นต้องมีบุคลิกและนิสัยใจคอบางอย่างที่ทำให้เพศตรงข้ามเมินใส่
และไม่อยากเข้าไปสุงสิงยุ่งเกี่ยวกะเธอแหงๆ อ่ะงั้นบุคลิกหรือนิสัยใจคอของผู้หญิงอย่างไหนหนอ
ที่มีส่วนชักพาให้เธอขึ้นคานได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างก็ได้เช่น แอ่น แอ๊น...
1. เรื่องมากแถมยังเอาใจยากไอ้หยา ถ้าสาวใดเป็นคนเรื่องมากแถมหากมีใครเข้ามาใกล้ และหมายจะจีบเธอแล้วไซร้ แต่มารู้ทีหลังว่าหล่อนดั๊นเป็นคนที่เอาใจยากตัวแม่ละก็ โอ้มายก็อด...นิสัยแบบนี้ ใครทนได้ก็เชื่อเค้าเลย!แต่พูดก็พูดเหอะ เจ้าอาการเป็นคนเรื่องมากแถมยังเอาใจยากน่ะ คนทั่วๆไปเค้าก็เป็นกันนะ ไม่ใช่ไม่เป็น เอ้าคิดถึงตัวคุณเองก็แล้วกัน บางทีก็เอาใจยากใช่ไหมล่ะ ซึ่งหากเป็นกันนิดเดียวก็ไม่ถือว่าผิดปกติ แต่สำหรับในข้อนี้ ต้องเป็นหญิงที่เข้าข่ายเรื่องมากและเอาใจหล่อนยากอย่างรุนแรง ประมาณว่าถ้าใครอยากคบเธอละก็ต้องทนรอให้เธอแต่งองค์ทรงเครื่องจนคิดว่าตัวเอง สวยเลิศซะก่อน แล้วค่อยยอมไปไหนมาไหนด้วย เพราะหล่อนยึดมั่นกับคำที่ว่าผู้หญิงสวยเพราะแต่ง... นั่นไงล่ะ หล่อนถึงต้องการเวลาเอาใจใส่เสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองมากเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้าใครจะจีบหรือเขียนใบสมัครเป็นแฟนของเธอก็ต้องทนตรงนี้ (รอเธอ) ให้ได้นะเฟ้ย ซึ่งนี่ก็แค่แซมเปิลตัวอย่างของความเรื่องมากนะจ๊ะ ของจริงน่ะยังมีอีกเยอะ ไหนจะต้องทำตามที่เธอต้องการทุกอย่างก็ด้วย อู๊ยเป็นงี้สิ มิน่าถึงมีแววขึ้นคานเป็นงี้เอง
2.เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุดหล่อนชอบสั่งนู่นสั่งนี่ให้คนที่อยู่ใกล้ต้องทำตามที่เธอบอกให้ทำเท่านั้น โหถ้าขืนเป็นแบบนี้ คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรอกว่ะ เพราะถ้าเผื่อเมื่อไหร่ หล่อนเกิดรู้สึกว่า ไม่ได้ดังใจคงอาละวาดโวยวายบ้านแตกแน่นอน อย่างว่า พวกเอาแต่ใจตัวเองคงถูกโอ๋มาตั้งแต่แบเบาะ พอโตขึ้นจึงปรับตัวไม่ได้ ดังนั้นใครที่จะมาจีบเธอจึงต้องเข้าใจว่า เค้าเป็นฝ่ายต้องปรับตัวเข้าหาหล่อนเอง แล้วจะมีกี่คนที่ยอมเนอะ
3. คิดว่าตัวเองถูกเสมอถ้าสาวคนไหนคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ถูกไปซะหมดแล้วละก็ คนรอบตัวหล่อนก็พึงสังวรไว้เหอะว่า คุณนั้นทำอะไรก็ผิดในสายตาเธอไปซะหมด ซึ่งของพรรค์นี้จะยอมกันได้ไงใช่ไหมฮ้า ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์เหมือนกัน ย่อมต้องทำถูกมั่ง ผิดบ้างเป็นธรรมดา หากทำใจไม่ได้ว่าตัวเองผิดไม่เป็น แล้วจะอยู่ร่วมกับใครได้ละเนี่ย โถ...หยั่งเงี้ยละสิถึงไม่มีใครกล้าคว้าหล่อนมาเป็นแฟน... รู้ตัวไหม?
4. ขี้เหนียว ไม่รู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้างเลยก็ไม่ไหวน้าสาวรายใดไม่ยอมมีส่วนช่วยออกค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวด้วยกันระหว่างที่กำลังคบหาดูใจกับใครสักคนซะบ้างละก็ รู้ไว้เถอะว่า ผู้ชายน่ะ เค้าเซ็งผู้หญิงขี้เหนียวแบบนี้มากจ้ะ เพราะการไปมาหาสู่ กันจะปัดให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของชายข้างเดียวก็แย่ นะซี ทางที่ดีควรหาร หรือผลัดกันจ่ายค่าดินเนอร์, ค่าเอนเตอร์เทน ดูหนัง, ดูคอนเสิร์ตดีกว่านะ หัดแชร์ๆกันออก เค้าจะได้อยากชวนสาวไปไหนมาไหนไม่ดีกว่าเรอะ
5. ชอบใส่อารมณ์กับผู้คนรอบข้างอย่างไร้ เหตุผลหากใครเจอผู้หญิงที่นิสัยอย่างนี้คงอึ้งกิมกี่กันเป็นแถ้ว! เพราะใครบ้างอยากจีบผู้หญิงที่ชอบอารมณ์เสียใส่คนรอบข้าง ยิ่งถ้าเผื่อเป็นคนไร้เหตุผลด้วยละก็
งั้นปล่อยให้หล่อนขึ้นคานไปซะละกัน.@@@
จาก คอลัมน์ เมอร์ลิน ไทยรัฐ
----------------------------------
เห้อ ๆ ๆ ว่าแล้วเชียว คริ คริ ^_^
คิดแล้วเขียน :))
วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ข้อคิดจากการ์ตูน The Princess and the Frog
ถ้าเข้าไม่ได้ ให้เข้าไปที่
http://www.youtube.com/watch?v=Qh8jULvCL6M&feature=player_embedded
พอดีช่วงวันหยุด
มีโอกาสเช่าวีดีโอ การ์ตูน Disney มาชม
เรื่อง The Princess and the frog มาชม
ทำให้ย้อนระลึกการ์ตูนของดิสนีย์สมัยก่อน
ที่มักจะมีเจ้าหญิงและเจ้าชาย สร้างฝันให้เด็ก ๆ
แต่ครั้งนี้ เมื่อข้าพเจ้าได้ชมการ์ตูนเรื่องนี้
ทำให้รู้สึกว่า Disney มีการพัฒนาการ์ตูนโดยแทรกข้อคิดที่ดี ๆ
ให้กับเด็ก ๆ คือ ไม่ใช่ขอพรกับดวงดาวอย่างเดียว แต่สอนเด็กให้ลงมือทำด้วย
เหมือนนางเอกในการ์ตูนเรื่องนี้ ฝันว่าอยากเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหาร
สืบเนื่องมากจากตนเองมีพรสวรรค์ในเรื่องทำอาหาร ได้แรงบันดาลใจจากผู้เป็นบิดา
โดยสอนลูกให้อดออม และประหยัดในการทำงานหาเงินโดยอาชีพสุจริต
เพื่อสร้างความฝันให้เป็นความจริง (ทำงานและเก็บเงินเพื่อซื้อทำเลสร้างร้าน)
ซึ่งผิดกับพระเอก ที่เป็นเจ้าชายถังแตก ใช้ชีวิตเสเพลไปวัน ๆ
คิดจะจับผู้หญิงรวย ๆ แต่งงาน เพื่อยกฐานะของตนให้ดีขึ้น
มันได้ข้อคิดดีจริง ๆ
ไม่เหมือนหนังไทยน้ำเน่าให้ผู้หญิงแย่งจับผู้ชายกัน
ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า Disney ทำการ์ตูนเรื่องนี้ออกมา
คงจะถูกใจหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนผิวสี
ที่ต้องต่อสู้กับชีวิต จากแรงกดดันรอบข้าง
ข้าพเจ้ายังคิดเลยว่าบริษัท Disney
ทำการ์ตูนเรื่องนี้เอาใจคนผิวสี ในประเทศอเมริกา
ที่เป็นคนที่เคยถูกเหยียดสีผิวมาก่อน
ยิ่งตอนนี้ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันเป็นคนผิวสี
ก็เลยให้นางเอกพระเอก มีผิวสี เป็นตัวเด่น
ซึ่งข้อดี ของนางเอกผิวสี คือ ขยัน และอดทน
ไม่หมกหมุ่น ที่จะหาผู้ชายมาเป็นคู่
สมกับเป็นตัวอย่างดี ๆ ให้เด็ก ๆ
และวัยรุ่นทุกคน
ได้ชมการ์ตูนเรื่องนี้ บอกตรง ๆ ว่าชอบมาก
ไม่ใช่การ์ตูนที่ชวนให้เด็กฝันเฟื่องอีกต่อไป
แต่เน้นสอนให้เด็กมีความฝัน และลงมือทำด้วย
ข้าพเจ้าชอบเพลงนึงในนี้ เลยนำมาลง blog
---------------------------------
เนื้อเพลง
Ma Belle Evangeline Lyrics
Look how she lights up the sky,
Ma Belle Evangeline.
So far above me yet I,
Know her heart belongs to only me.
J'et adore, J'et aime Evangeline,
You're my queen of the night,
So still,
So bright.
That someone as beautiful as she,
Could love someone like me.
Love always finds a way it's true!
And I love you, Evangeline.
Love is beautiful,
Love is wonderful!
Love is everything, do you agree?
Mais' oui!
http://www.elyricsworld.com/ma_belle_evangeline_lyrics_jim_cummings.html
Look how she lights up the sky,
I love you, Evangeline.
------------------------
คิดแล้วเขียน :))
วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553
เพราะมักง่าย ชีวิตจึงวุ่นวาย
ก็คิดถึงปมปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเอง
พยายามนึกนะ ว่าเราเองไปเหยียบตาปลาใครหรือเปล่า?
อะไรหรือ? ที่เขา หรือหลาย ๆ คน พยายามทำกับเราแบบนั้น?
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เราเป็นคนธรรมดา เฉย ๆ เรื่อย ๆ
แต่ทำไมชอบมีคนมาวุ่นวายกับเราจัง
(ส่วนมากจะเรื่องไม่ค่อยดี)
เราชอบที่จะมีชีวิตอยู่แบบสงบ ร่มเย็น
ไม่ใช่อยู่รายล้อมพวกแย่งชิง แข่งดี แข่งเด่นกัน
อยากมีชื่อเสียง ไปที่ไหนคนก็แห่ล้อมรอบ
เราไม่ใช่คนแบบนั้น จึงพยายามเฟตตัวเองออกมา
จากสังคมเหล่านั้น เพราะรู้ว่า ตนเองมีนิสัยไม่ค่อยชอบวุ่นวายกับใคร
และก็ไม่ชอบให้ใครมาก้าวก่ายเรื่องของเราด้วย
การที่เรามีนิสัยดี จิตใจโอบอ้อมอารี กับคนรอบข้าง
เป็นสิ่งไม่ดีหรือ แต่เหมือนว่า
สิ่งที่เราทำไป มันไม่มีอะไรงอกออกมาให้เห็นเลย
เหมือนคนที่พยายามตักน้ำใส่ถังที่รั่ว
คือ ใส่น้ำลงไปเท่าไร ก็ไม่มีใครเห็นว่าเราตัก
ดีไม่ดี เหมือนมีคนโยนขี้มาใส่ถังนั้นอีกด้วย
ถังน้ำที่มีอยู่ไม่เคยเต็มให้ชื่นใจสักที
ดูแล้วเหมือนเป็นคนโง่นะ
แต่เราก็ทำ เพื่ออยากอยู่อย่างสงบ อยากอยู่ในสังคมได้
แต่....ถ้าอะไรที่มันมากเกินพอดี เราคงรับหน้าที่นั้นไม่ไหว
นิสัยเราอาจจะเหมือนผู้ชาย ที่ไม่ใช่ผู้หญิงนั่งเอาใจคนนั้นที คนนี้ที
เพราะแค่จะเอาตัวเองให้รอดจากปากเหยี่ยวปากกา นี่ก็หนักหนา
สำหรับผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึง
แบบนี้กระมัง ที่ตนเองเหมาะจะอยู่ด้วยตัวคนเดียว
ไม่เหมาะที่จะดูแลใครได้
กลับมาถามตนเองว่า ทำไมคนเราถึงได้อยากเด่น อยากดังกันจัง?
การที่เป็นคนรู้จักของคนอื่นไปทั่ว มันดีอย่างไร?
ลบปมด้อยในอดีตของตนเองกระนั้นหรือ?
การที่คน คนนั้นจะภาคภูมิใจตนเองได้
ต่อเมื่อมีคนมายกยอปอปั้น
ยอมรับเรา หรือให้คนอื่นบอกเขากระนั้นหรือ?
แปลก?! อยากรู้จริง ๆ นะว่า
การเป็นคนเด่น และดัง มันดีอย่างไร?
ทำไมเห็นหลาย ๆ คนชอบเป็นกันจัง
คิดแล้วเขียน :))
Version : คนหลังเขา
(ที่ไม่ชอบให้มีคนมาสวมเขาบนหลัง 555 )
วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553
การยึดติด : พระไพศาล วิสาโล
|
สุด .. ได้เลขท้าย ๓ ตัวมาจากหลวงพ่อ เลยแทงไป ๑๕ บาท ปรากฏว่าถูกเผง ได้มา ๖๐๐ บาท เขาดีใจมาก เที่ยวอวดใครต่อใครในหมู่บ้านว่าถูกหวย แต่พอรู้ว่า คอนซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ก็แทงหวย ๓ ตัวถูกเหมือนกัน แต่ได้เงินมากกว่าคือ ๒ , ๐๐๐ บาท เพราะแทงมากกว่า สุดเลยยิ้มไม่ออก หงอยไปทั้งวัน แถมยังโมโหตัวเองที่แทงน้อยไป ที่มา FWmail คิดแล้วเขียน :)V |